เครื่องปรับโมเลกุลน้ำ QB Resonator
ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างโมเลกุลน้ำสะอาดธรรมดา ให้กลายเป็นน้ำที่มีคุณสมบัติพิเศษ คล้ายน้ำพุภูเขาธรรมชาติ
แต่ละคนดื่มนํ้าเท่าไหร่จึงจะเพียงพอ ?
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการดื่มนํ้า
การดื่มน้ำอย่างถูกวิธี
น้ำสื่อสารกับเซลล์ในร่างกายได้
น้ำ
• เป็นส่วนประกอบที่มีมากที่สุดในเซลล์
• มีอยู่ประมาณ 75-80% ของส่วนประกอบทั้งหมดในเซลล์
• ช่วยชะล้าง นำพาของเสียและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเซลล์
• ช่วยนำพาสารอาหารและออกซิเจน เข้าสู่เซลล์
• เป็นส่วนจำเป็นมาก สำหรับสิ่งมีชีวิต
• ทำให้เซลล์สดชื่น
• ทำให้เซลล์ภูมิต้านทานแข็งแรง ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์
• มีความหนืดสูง
• มีความตึงผิวสูง
• ทำให้เคลื่อนตัวได้ช้า
• ปกติ โมเลกุลน้ำจะรวมกลุ่มกัน ประมาณ 30-40 โมเลกุล (Macro Cluster Water)
• ถูกดูดซึมเข้าและออกจากเซลล์ช้า ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง
• การนำพาของดีเข้าสู่เซลล์ และของเสียออกจากเซลล์ก็ช้าไปด้วย
แต่ละคนดื่มนํ้าเท่าไหร่จึงจะเพียงพอ
ตามที่องค์การอนามัยโลกได้กำหนดสูตรคำนวณปริมาณนํ้าดื่มให้เหมาะสมกับนํ้าหนักตัวของแต่ละคนต่อวันไว้ดังนี้
นํ้าหนักตัว (ก.ก.) หาร 2 คุณ 2.2 คูณ 30 = จำนวน ซีซี ของนํ้าที่ควรได้รับ (1,000 ซีซี = 1 ลิตร, 1 ลิตร = 5 แก้ว) เช่น ถ้ามีนํ้าหนัก 50 กิโลกรัม ปริมาณที่ควรได้รับคือ 1,650 ซีซี หรือประมาณ 8 แก้ว
น้ำสื่อสารกับเซลล์ในร่างกายได้
ท่านทราบหรือไม่ว่า โมเลกุลของน้ำสามารถสื่อสารกับเซลล์ของร่างกายโดยการส่งและรับพลังงานกันได้ สิ่งที่เราพูด คิด และทำ เสียงดนตรี เสียงสวดมนต์ ภาวะแวดล้อม และตัวอักษร ต่างก็เป็นพลังงานคลื่น ซึ่งสามารถกระทบต่อโครงสร้างในระดับโมเลกุลของน้ำ โดย ดร.มาซารุ อิโมโตะ นักวิจัยชาวญี่ปุ่น ผู้มีชื่อเสียงระดับโลกในฐานะผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับน้ำและอานุภาพของน้ำที่มีต่อมนุษย์ ได้ทำการวิจัยศึกษาวิจัยเกี่ยวกับผลึกของน้ำ
และได้ค้นคว้าด้านวิทยาศาสตร์และจิตวิญญาณเกี่ยวกับน้ำ รวมถึงการค้นพบผลึกของน้ำที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ดร.มาซารุ อิโมโตะ ค้นพบว่า น้ำสามารถสร้างผลึกซึ่งสามารถมองเห็นเป็นรูปร่างที่แตกต่างกันไปผ่านความสั่นสะเทือนจากคลื่นต่างๆ ตามสิ่งแวดล้อม คำพูด และความคิดที่เปล่งออกมา ผลึกของน้ำที่มีรูปร่างสวยงาม เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ จะมีพลังแห่งการบำบัดซึ่งสามารถช่วยฟื้นฟูสุขภาพได้
การดื่มน้ำอย่างถูกวิธี
ควรดื่มน้ำหลังจากตื่นนอน ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ในแต่ละมื้อ และก่อนนอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
ดื่มน้ำเป็นระยะๆ ไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งวัน ไม่ควรปล่อยให้เกิดความรู้สึกกระหายน้ำ เพราะนั่นหมายถึง ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำแล้ว
ก่อนออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำก่อนอย่างน้อย 30 นาที
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการดื่มนํ้า
- ไม่ควรดื่มนํ้าแบบรวดเร็ว เพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อการสำลักแล้ว การดูดซึมไปใช้จะทำได้น้อยกว่าการค่อยๆ ดื่ม และยังทำให้ไตและระบบย่อยอาหารทำงานหนัก
- ไม่ควรดื่มน้ำมากกว่าครึ่งแก้วก่อนรับประทานอาหาร 15 นาที และภายหลังอย่างน้อยประมาณ 30 นาที เพราะจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนัก และต้องผลิตน้ำย่อยออกมามากกว่าปกติ ส่งผลให้การดูดซึมสารอาหารไม่เต็มที่
- แม้ว่าการดื่มนํ้าเย็น จะทำให้รู้สึกสดชื่น แต่ก็ไม่ควรเป็นน้ำที่เย็นจัด หรือดื่มน้ำเย็นบ่อยๆ เนื่องจากอุณหภูมิโดยปกติของร่างกายคนเรานั้นอยู่ที่ 36-37 องศาเซลเซียส ถ้าเราดื่มนํ้าเย็น นํ้าเย็นจะต้องไปดึงความร้อนของร่างกายมาปรับให้อุณหภูมิของนํ้าเท่ากับร่างกาย การดูดซึมจะทำงานได้ไม่ดี ทำให้ร่างกายสูญเสียพลังงานและเสียเวลาในการปรับสมดุลให้คืนสู่ปกติ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอ การย่อยอาหารไม่ดีเท่าที่ควร และอาจเป็นสาเหตุของการปวดประจำเดือนได้
น้ำที่ดี มีคุณสมบัติดังนี้
• เคลื่อนตัวได้เร็ว
• มีความตึงผิวต่ำ
• มีความหนืดต่ำ
• ถูกดูดซึมเข้าและออกจากเซลล์ได้เร็ว
• นำพาของดีเข้าเซลล์ และของเสียออกจากเซลล์ได้ดี
ความสำคัญของน้ำ
• ควรดื่มน้ำสะอาด ปลอดสารก่อกลายพันธุ์ อย่างน้อย วันละ 8-10 แก้ว
• ถ้าเซลล์ในร่างกายของเรา ขาดน้ำอย่างรุนแรง เซลล์จะตาย ร่างกายเราจะอยู่ไม่ได้ ก็ตายไปด้วย